ทูตพาณิชย์ไทยในมาเลเซียได้จัดงานแฟชั่น “VersaThai ”เป็นครั้งแรก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ในการส่งออกสินค้าผ่านรูปแบบผสมผสานระหว่างออนไลน์ และออฟไลน์เพื่อเปิดตลาดใหม้ กระชับความสัมพันธ์ และสร้างเครือข่ายธุรกิจที่เข้มแข็ง
สำหรับ VersaThai เป็นการขนทัพแบรนด์แฟชั่นแนวหน้าสัญชาติไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 14 แบรนด์ ได้แก่ Bwild Isan, Black Sugar, Clother Vestiaire, Yano, Heritage, Mirah, Varithorn, Shu, Siri Dress House, SC Grand: Circular, De Quarr Community, Olive, Gemio และ Scholl ร่วมโครงการ “VersaThai: Top Thai Fashion Brands 2022” ในธีม (Theme)หลัก คือ VersaThai ซึ่งมาจากคำว่า Versatile รวมกับ Thai หมายถึง แฟชั่นไทยที่มีความหลากหลาย มิกซ์แอนด์แมตช์ได้ในทุกโอกาส และยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร
นายวรวรรณ วรรณวิล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ( สคต. / ทูตพาณิชย์) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเชิงรุกจะเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันสินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยเข้าสู่ตลาดมาเลเซียในระดับ B2B เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคและผู้ซื้อเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการส่งเสริมสินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยในประเทศมาเลเซีย หรือ “VersaThai : Top Thai Fashion Brands 2022”
วัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมภาพลักษณ์และการรับรู้สินค้าแฟชั่นไทยในมาเลเซีย รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและสินค้าแบรนด์ไทยในตลาดมาเลเซียและต่อยอดสู่ประเทศอื่น ๆ ในระดับสากล
“VersaThai : Top Thai Fashion Brands 2022” เริ่มจัดตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ ไปจนถึงสิ้นปี 2565 โดยจะมีกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การจัด Pop-up Store ณ ByThian Designer และ Flagship Store ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เซ็นทรัลไอซิตี้ กัวลาลัมเปอร์ รวมถึงการเข้าร่วมโชว์ผลงานในโซนแกลลอรีสินค้าไทยในงาน Malaysia International Halal Showcase (MIHAS) ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ไทยได้ Best Country Pavilion Awards และการนำเสนอผลงานแฟชั่นผ่านอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของมาเลเซีย เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการ “VersaThai: Top Thai Fashion Brands 2022” ได้สร้างมูลค่าการซื้อขายแล้วทันทีหลังจากเปิดตัวถึง 15.6 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าที่คาดไว้ว่าจะเกิดมูลค้าทางการค้าภายใน 1 ปี รวมไม่ต่ำกว่า 12.5 ล้านบาท นอกจากนี้ เชื่อว่า VersaThai จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการผลักดันการส่งออกสินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยเข้าสู่ตลาดมาเลเซียเพิ่มขึ้น และจากกระแสตอบรับที่ดีเชื่อว่าจะมีแบรนด์เสื้อผ้าไทยใหม่ ๆ แจ้งเกิดในมาเลเซียได้เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน